ฐานเศรษฐกิจ
หน้าปกหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจรายวัน | |
ประเภท | หนังสือพิมพ์รายสามวัน |
---|---|
รูปแบบ | ธุรกิจ (Business) |
เจ้าของ | บริษัท ฐานเศรษฐกิจ มัลติมีเดีย จำกัด |
ผู้เผยแพร่ | โรงพิมพ์ตะวันออก |
ก่อตั้งเมื่อ | 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2524 |
ภาษา | ภาษาไทย |
สำนักงานใหญ่ | เลขที่ 1858 อาคารเนชั่นทาวเวอร์ ชั้น 11 ถนนเทพรัตนกม.4.5 เขตบางนา แขวงบางนาใต้ กรุงเทพมหานคร 10260 |
ยอดจำหน่าย | 694,000 คน |
เว็บไซต์ | www.thansettakij.com |
ฐานเศรษฐกิจ เป็นหนังสือพิมพ์รายสามวัน เสนอข่าวธุรกิจ เดิมออกเป็นรายสัปดาห์ ฉบับปฐมฤกษ์ลงวันจันทร์ที่ 23 ถึงวันเสาร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2524 ต่อมาตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2535 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจเริ่มออกจำหน่ายเป็นรายสามวัน[1]
บริษัท ฐานเศรษฐกิจ จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2523 โดยกลุ่มคนทำหนังสือพิมพ์ 10 คนภายใต้การนำของนาย สมศักดิ์ ศรีวุฒิชาญ ฉบับปฐมฤกษ์ของ นสพ. “ฐานเศรษฐกิจ” วางตลาดสู่สายตาคนไทยเป็นครั้งแรกในวันที่ 2 มกราคม 2524 นสพ. และได้รับการยอมรับว่าเป็นหนังสือพิมพ์แนวเศรษฐกิจที่มียอดผู้อ่านมากที่สุดในประเทศ เป็นครั้งแรกในปี 2529 โดยบริษัทวิจัยสื่อระดับประเทศขณะนั้นคือ บริษัท ดีมาร์ จำกัด หลังจากนั้นเป็นต้นมา “ฐานเศรษฐกิจ” ครองตำแหน่งยอดนิยมอันดับหนึ่งมาโดยตลอด
ปัจจุบันดำเนินการโดย บริษัท ฐานเศรษฐกิจ มัลติมีเดีย จำกัด
ประวัติ
[แก้]ราวกลางปี พ.ศ. 2523 สมศักดิ์ ศรีวุฒิชาญ และเพื่อนอีกราว 10 คนซึ่งเป็นผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์หลายฉบับ ลาออกมาร่วมกันก่อตั้ง บริษัท ฐานธุรกิจ จำกัด (ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็น บจก.ฐานเศรษฐกิจ ในเวลาต่อมา) มีสำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 529 เชิงสะพานมิตรสัมพันธ์ 3 ในซอยสุขุมวิท 63 (เอกมัย) ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนงเหนือ เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร เริ่มด้วยจำนวนพนักงาน 26 คน เพื่อทำการออกหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจรายสัปดาห์ ภายใต้ชื่อฐานเศรษฐกิจ โดยใช้รูปแบบการจัดหน้าของหนังสือพิมพ์เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล เพื่อให้หน้ากระดาษดูโล่งสบายตา และไม่มีพื้นที่โฆษณาในหน้า 1 (แต่ปัจจุบันมีแถบโฆษณาอยู่ด้านล่างของหน้า) ซึ่งเริ่มต้นด้วยฉบับทดลองที่ 1 ลงวันพฤหัสบดีที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2524 และฉบับทดลองที่ 2 ในราวปลายเดือนมกราคมปีเดียวกัน
ต่อมาในเช้าวันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2524 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับปฐมฤกษ์ ออกวางแผงเป็นรายสัปดาห์ในกรุงเทพมหานคร พิมพ์สองสีด้วยกระดาษปอนด์ จำนวน 20 หน้า ราคา 6.00 บาท โดยมีเนื้อหาข่าวเศรษฐกิจทั้งระดับมหัพภาคและจุลภาค ประกอบด้วยข่าวการเงินและหลักทรัพย์, การลงทุนและอุตสาหกรรม, การตลาดและบริการ, การค้าและราคาสินค้า, เศรษฐกิจการเมือง, เศรษฐกิจปริทัศน์, เศรษฐกิจต่างประเทศ และ สังคมธุรกิจ ทั้งนี้ราวปลายปีเดียวกัน ฐานเศรษฐกิจออกหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจภาษาอังกฤษรายสัปดาห์ ซึ่งถือเป็นฉบับแรกของประเทศไทย โดยใช้ชื่อว่าอีโคโนมิกไทมส์ (อังกฤษ: Economic Times) ทว่าออกวางแผงได้เพียง 1 ปี 2 เดือนก็จำต้องปิดตัวลง และในระยะเดียวกันนั้น ฐานเศรษฐกิจย้ายสำนักงานไปเช่าอาคารพาณิชย์ขนาด 3 ชั้นครึ่ง ภายในซอยกอเตย ถนนประดิพัทธ์ ย่านสะพานควาย แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
จากนั้นราวปี พ.ศ. 2525 ฐานเศรษฐกิจปรับปรุงรูปแบบการจัดหน้าหนังสือพิมพ์ครั้งใหญ่ ที่สำคัญคือการเพิ่มภาพข่าวประกอบให้มากยิ่งขึ้น และเปลี่ยนขนาดตัวอักษรที่ใช้พาดหัวข่าวให้ใหญ่ขึ้น เช่นเดียวกับหนังสือพิมพ์ทั่วไป โดยในปี พ.ศ. 2528 ฐานเศรษฐกิจจัดซื้อที่ดินเลขที่ 14 ในซอยกอเตย พร้อมทั้งจัดสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่ และย้ายเข้าใช้ปฏิบัติงานในปีเดียวกัน ทั้งนี้ช่วงปลายปี ฐานเศรษฐกิจก่อตั้งบริษัท มีเดีย ดาตา รีเสิร์ช จำกัด (อังกฤษ: Media Data Research Co.,Ltd.) ขึ้นเป็นกิจการในเครือ เพื่อประกอบธุรกิจการจัดจำหน่ายข้อมูลเกี่ยวกับงานโฆษณา
ต่อมาในปี พ.ศ. 2529 ฐานเศรษฐกิจก่อตั้งบริษัท ฐานการตลาด จำกัด ขึ้นเป็นกิจการในเครือ เพื่อประกอบธุรกิจการจัดจำหน่ายหนังสือพิมพ์ในส่วนภูมิภาค พร้อมทั้งรับดำเนินการจัดทำหนังสือฉบับพิเศษ สำหรับอภินันทนาการไปกับหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ และในปีเดียวกัน บริษัท ดีมาร์ จำกัด ผู้ดำเนินงานสำรวจวิจัยตลาดและสื่อโฆษณาระดับนานาชาติ เผยแพร่ผลการสำรวจจำนวนผู้อ่านหนังสือพิมพ์ในประเทศไทย ซึ่งฐานเศรษฐกิจมีจำนวนผู้อ่านมากที่สุด ในประเภทเศรษฐกิจรายสัปดาห์ โดยจำแนกเป็นผู้อ่านในกรุงเทพมหานคร 564,000 คน และในต่างจังหวัด 130,000 คน ซึ่งฐานเศรษฐกิจยังคงมีปริมาณผู้อ่านมากที่สุด จากผลสำรวจดังกล่าวอีก 10 ปีต่อมา ทั้งนี้ราวปลายเดือนธันวาคม พ.ศ. 2530 ฐานเศรษฐกิจพิมพ์สี่สีด้วยกระดาษปอนด์เป็นฉบับแรกของไทย
จากนั้นเมื่อปี พ.ศ. 2535 เครือฐานเศรษฐกิจย้ายสำนักงานอีกครั้ง ไปยังอาคารขนาด 15 ชั้นที่สร้างขึ้นใหม่ มีชื่อว่าอาคารฐานเศรษฐกิจ (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นอาคารไอทาวเวอร์)[2] เลขที่ 222 ริมถนนวิภาวดีรังสิต แขวงและเขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร โดยมีพนักงานรวมกิจการในเครือมากกว่า 800 คน และในวันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคมปีเดียวกัน ฐานเศรษฐกิจเริ่มออกวางแผงเป็นรายสามวัน ในทุกวันพฤหัสบดีและวันอาทิตย์ เริ่มตั้งแต่ฉบับที่ 595 ประจำวันพฤหัสบดีที่ 9 ถึงวันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2535 ทั้งนี้ราวเดือนกุมภาพันธ์ปีถัดมา ฐานเศรษฐกิจเริ่มจัดทำฉบับพิเศษขนาด 4 หน้ายก ภายใต้ชื่อว่าฐานการเมือง เป็นส่วนแยกใหม่ของหนังสือพิมพ์ โดยต่อมาแยกตัวออกจากฐานเศรษฐกิจ มาวางแผงในรูปแบบนิตยสารข่าวรายสัปดาห์ พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อเป็น ฐานสัปดาห์วิจารณ์ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2537 (ปัจจุบันปิดตัวแล้ว)
ต่อมาราวปลายเดือนธันวาคมปีเดียวกัน ฐานเศรษฐกิจเริ่มจัดทำหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ฉบับใหม่ โดยใช้ชื่อว่าฐานอาทิตย์วิเคราะห์ มีเนื้อหาเป็นบทความและบทวิจารณ์เศรษฐกิจหรือธุรกิจทั้งฉบับ (ปัจจุบันปิดตัวแล้ว) จากนั้นเมื่อวันเสาร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2538 ฐานเศรษฐกิจร่วมกับศูนย์เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (ปัจจุบันคือ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ) จัดทำเว็บไซต์ข่าวหนังสือพิมพ์เป็นฉบับแรกของประเทศไทย ภายใต้ชื่อโดเมน www.thannews.th.com (ปัจจุบันใช้ www.thansettakij.com) และในปีเดียวกัน ฐานเศรษฐกิจก่อตั้งบริษัท ฐานการพิมพ์ จำกัด ขึ้นเป็นกิจการในเครือ เพื่อเป็นสำนักพิมพ์รองรับงานพิมพ์หนังสือในเครือ และรับจ้างผลิตงานพิมพ์ทั่วไป โดยติดตั้งแท่นพิมพ์คอมเมอร์เชียลเว็บ ซึ่งสามารถพิมพ์กระดาษม้วน 16 หน้า 4 สีได้ในเวลาเดียวกัน พร้อมทั้งแท่นพิมพ์ระดับมาตรฐาน มีสำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 9/11 หมู่ 9 ซอยสวนชิดชม ถนนเทศบาลสงเคราะห์ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
จากวิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชีย ที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2540 เครือฐานเศรษฐกิจต้องปรับลดหน้าหนังสือพิมพ์ ลดจำนวนพิมพ์ ตลอดจนลดจำนวนและรายได้ของพนักงาน ซึ่งสามารถฟื้นฟูกิจการกลับมาได้อีกครั้งในปี พ.ศ. 2545 ก่อนหน้านั้นในวันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2542 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของสมศักดิ์ ศรีวุฒิชาญ ฐานเศรษฐกิจเริ่มจัดทำหนังสือพิมพ์กีฬารายวันฉบับใหม่ โดยจัดพิมพ์สี่สีบนกระดาษปอนด์เป็นฉบับแรกของไทย และใช้ชื่อว่าคิกออฟ (อังกฤษ: Kick Off) ต่อมาในปี พ.ศ. 2548 จำนวนหน้าหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจอยู่ที่ 56 ถึง 128 หน้า นอกจากนี้ ยังมีหนังสือพิมพ์สมัครงานรายวัน นิตยสารสมัครงานรายสัปดาห์ รวมถึงการเข้าร่วมผลิตรายการวิทยุและโทรทัศน์ ตลอดจนให้เช่าห้องจัดเลี้ยงในอาคารฐานเศรษฐกิจ และการจัดกิจกรรมพิเศษต่างๆ
ทว่าในปี พ.ศ. 2552 เครือฐานเศรษฐกิจประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก เนื่องจากผู้บริหารระดับสูงต้องการขยายกิจการสื่อให้ครบวงจร ด้วยการลงทุนขยายธุรกิจไปยังวิทยุและโทรทัศน์ แต่กลับประสบความล้มเหลว[3] ทำให้เกิดรายจ่ายมากกว่ารายได้เป็นจำนวนมาก จนกระทั่งต้องเลิกจ้างพนักงานจำนวน 60 คน เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ปีดังกล่าว[4] รวมถึงต้องจำหน่ายอาคารฐานเศรษฐกิจให้แก่บริษัท คอม-ลิงก์ จำกัด เพื่อชำระหนี้ของบริษัทประมาณ 800 ล้านบาท ซึ่งมีอยู่กับธนาคารกรุงเทพด้วย[2] โดยฐานเศรษฐกิจย้ายสำนักงาน กองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ และเว็บไซต์ข่าวฐานออนไลน์ ไปยังชั้น 7 ของอาคารจุฑามาศ เลขที่ 89/169-170 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน ปีเดียวกัน[5]
ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ ภาพยนตร์โฆษณา หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ที่เผยแพร่ทางโทรทัศน์ ราวเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2535 จากยูทูบ
- ↑ 2.0 2.1 "เจมาร์ทซื้อตึกฐานเศรษฐกิจ 700 ล้าน". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-10-22. สืบค้นเมื่อ 2012-11-29.
- ↑ สำรวจทางรอด นสพ.ไทย ท่ามกลางพิษเศรษฐกิจโลก
- ↑ พิษเศรษฐกิจเล่นงาน "ฐานเศรษฐกิจ" ปลดพนักงาน 60 คน
- ↑ สำนักงาน กองบรรณาธิการ ฐานเศรษฐกิจ